เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูฝน นอกจากโรคหวัดและไข้หวัดใหญ่ที่เราได้ยินกันบ่อยๆแล้ว ยังมี “ โรคมือเท้าปาก ” ที่ได้ยินข่าวคราวกันเป็นประจำโดยเฉพาะกับเด็กเล็กๆ ทำให้เมื่อเกิดการระบาดแต่ละทีโรงเรียนต้องประกาศหยุดเรียนกันทุกครั้งไปเพื่อควบคุมโรคไม่ให้แพร่กระจายมากขึ้น ว่าแต่โรคนี้เกิดจากสาเหตุใด มีอาการอย่างไรบ้าง อันตรายหรือเปล่า วันนี้ทางเราได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโรคนี้มาฝากกันแล้วค่ะ
โรคมือเท้าปาก (Hand Foot Mouth Disease) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในกลุ่ม Enterovirus จะระบาดมากในฤดูฝนเหมือนกับโรคไข้เลือดออก พบมากในเด็กที่อายุต่ำกว่า 10 ขวบ แต่ก็สามารถพบในผู้ที่มีอายุมากกว่านี้ได้เช่นเดียวกันแต่ว่าอาการจะไม่รุนแรงเหมือนเด็กเล็ก ปกติแล้วหากไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ อาการจะดีขึ้นจนหายเป็นปกติใน 7-10 วัน การระบาดมักพบในกลุ่มโดยเฉพาะในโรงเรียน เนอส์เซอรี่หรือจุดที่ผู้คนไปอยู่รวมกันเยอะๆ ช่วงเวลาที่มีระบาดมากสุดจะเป็นช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม เนื่องจากเป็นช่วงที่โรงเรียนกำลังเปิดภาคเรียนใหม่ เชื้อจึงแพร่ระบาดได้ง่าย
สำหรับสาเหตุคือ เกิดจาการติดเชื้อไวรัสกลุ่ม Enterovirus สามารถแพร่เชื้อได้ง่ายๆโดยการสัมผัสสารคัดหลั่งที่ปนเปื้อนเชื้อโรค เช่น ไอ จาม การสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ เป็นต้น
หลังจากรับเชื้อแล้ว โรคจะอยู่ในระยะฟักตัว 3-6 วัน จากนั้นจะเริ่มแสดงอาการออกมา โดยเริ่มจากมีไข้ก่อน ซึ่งอาจจะเป็นไข้ต่ำหรือสูงก็ได้ ตามมาด้วยเจ็บคอ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร เป็นต้น หลังจากมีไข้ 1-2 วัน จะเริ่มตุ่มหรือผื่นขึ้นบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้าและปาก สำหรับที่มือและเท้า ตุ่มอาจจะมีลักษณะบวมแดงหรือเป็นตุ่มน้ำใสได้ ส่วนในปากจะพบแผลได้หลายบริเวณ ทั้งภายในและภายนอกช่องปาก บางคนมีตุ่มตั้งแต่โคนลิ้น เพดานอ่อน กระพุ้งแก้ม ไปจนถึงรอบๆริมฝีปากภายนอกเลยก็มี บางคนที่มีแผลในปากเยอะๆ จะทานอาหารไม่ค่อยได้ เพราะเจ็บปาก หากเป็นติดต่อกันหลายวัน คนไข้ในกลุ่มนี้ต้องมาโรงพยาบาลเพราะบางคนอาจะมีร่างกายอ่อนเพลียจากากรขาดอาหาร ต้องให้น้ำเกลือเพื่อประครองอาการจนกว่าจะดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีโรคซิฟิลิสที่ติดต่อง่ายเพียงแค่สัมผัสแผลคล้ายกับโณคนี้อีกด้วย
โรคมือเท้าปากดโดยปกติแล้วไม่อันตราย ส่วนมากมักจะหายเองได้ภายใน 5-7 วัน หากไปพบแพทย์ แพทย์ก็รักษาตามอาการเพราะยังไม่มีวัคซีนหรือยาใดๆที่จะช่วยรักษาโรคนี้โดยตรงได้ แต่ว่าภาวะแทรกซ้อนของโรคนี้ก็มีอยู่บ้าง เช่น ภาวะขาดน้ำหรืออ่อนเพลียหนักๆ สาเหตุจากเจ็บในปากและลำคอจนทานอาหารหรือดื่มน้ำไม่ค่อยได้ จึงนับว่าไม่อันตรายมากนัก เนื่องจากการรักษาทำได้ไม่ยากเลย แต่ก็มีอีกภาวะแทรกซ้อนหนึ่งที่ค่อนข้างอันตราย แต่มีอัตราการพบต่ำมากคือ ภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โดยจะพบได้ราวๆ 1-5 รายต่อปีเท่านั้น แต่กลับมีโอกาสที่จะเสียชีวิตสูงมาก ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่ต้องเฝ้าระวังหากลูกป่วยเป็นโรคมือเท้าปาก หากสังเกตแล้วพบว่ามีอาการดังต่อไปนี้ ให้รีบไปแพทย์โดยด่วนที่สุด
ปัจจุบันนี้ยังไม่มีวิธีการกำจัดเชื้อไวรัสต้นเหตุหรือรักษาอาการป่วยให้หายขาดได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงทำได้เพียงรักษาตามอาการและประคับประครองไปจนกว่าจะหายดี เพราะฉะนั้นหากป่วยด้วยโรคนี้ ผู้ป่วยต้องหยุดงานหรือหยุดเรียนทันที เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ แล้วดูแลไปตามอาการ ซึ่งโดยปกติแล้วจะหายดีภายใน 10 วัน อย่างไรก็ตามหากอาการยิ่งทรุดลง ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนและจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป สำหรับการดูแลผู้ป่วยโรคมือเท้าปาก มีแนวทางดังต่อไปนี้
ถึงแม้โรคนี้ไม่ได้อันตรายมากนัก แต่มันก็ทำให้ป่วยได้หลายวันเลยทีเดียว แถมยังพบได้มากในเด็กเล็กอีก ซึ่งคนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมต้องเป็นห่วงลูกไม่น้อยเลย ดังนั้นนั้นการป้องกันย่อมดีกว่ามานั่งรักษา เพราะฉะนั้นหากพบว่ามีใครป่วยในโรงเรียน ตัวผู้ป่วยก็ต้องหยุดเรียน ส่วนนักเรียนร่วมห้องคนอื่นๆแนะนำให้หยุดเรียนตามไปด้วย เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค เพราะบางคนถึงแม้จะได้รับเชื้อแล้ว แต่ไม่ปรากฏอาการมากนักก็สามารถแพร่เชื้อใส่ผู้อื่นได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ทุกคนต้องรักสุขอนามัยให้ถูกต้อง กินอาหารที่มีประโยชน์เพื่อป้องกันโรึนี้และการป้องกันโรคภูมิแพ้ หากมีลูกเล็กๆพ่อแม่ก็ต้องสอนให้ลูกรู้จักดูแลตัวเอง เช่น ล้างมือก่อนทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้ง อย่าใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เป็นต้น
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ pobpad.com/อาการของโรคมือเท้าปาก
Atlantic Canada Healthcare คลังข้อมูลป้องกันโรค รู้ทันโรคใหม่ ๆ ทุกวัน พร้อมวิธีตรวจเช็คอาการเบื้องต้น มีประสิทธิภาพมากที่สุด ประหยัดที่สุด ทันเวลาในการตัดสินใจไปพบแพทย์เพื่อคำแนะนำและการรักษาที่ดีที่สุด