อย่างที่เรารู้กันดีว่าการไดเอ็ทแบบต่าง ๆ นั้นย่อมมีอุปสรรคขวากหนามอยู่มากไม่น้อย บางวิธีหลาย ๆ คนก็ยอมแพ้ไปกลางทางทำให้กลับมาน้ำเกินซ้ำแล้วซ้ำอีกเป็นวงจรวนไปไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้การเป็นโรคอ้วนอาจเกิดขึ้นและส่งผลต่อสุขภาพของคุณได้อีกด้วย สำหรับการรับประทานอาหารแบบคีโตแล้วก็มีอุปสรรคเช่นเดียวกัน วันนี้เราจะมาแชร์เคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการเริ่มทานกิน คีโต กันจะมีอะไรบ้างลองไปดูกันเลย
หลัก ๆ ก็คือการงดแป้ง และน้ำตาลวึ่งเป็นแหล่งคารืโบไฮเดรตสำคัญส่วนการกับการไดเอ็ทแบบคีโตจีนิกดังนั้นควรเช็คส่วนผสมของอาหารทุกครั้งก่อนรับประทานว่ามีส่วนผสมตามรายการนี้หรือไม่
หลาย ๆ คนอาจจะเป็นสายฮาร์ดคอร์ คือหักโหมไม่กินแป้งเลยตั้งแต่ช่วงแรก ๆ แต่ความจริงแล้วหนทางการกินคีโตที่ดีคือค่อยๆ ลดสัดส่วนของแป้งและน้ำตาลที่เคยรับประทาน เพราะการลดแบบปัจจุบันทันด่วนอาจทำให้เกิดอาหารไม่พึงประสงค์ได้ เช่น ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เมื่อยล้า ท้องผูกหรือท้องร่วง เป็นต้น การลดอาหารก็เช่นเริ่มจากการงดขนมของหวานก่อน จากนั้นค่อยมาลดแป้งตามมื้ออาหารเช่นเคยกินข้าวข้าวสองทัพพีระยะแรก ๆ อาจจะลองลดมาเหลือทัพพีเดียว ลดไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ร่างกายของเราปรับตัว ทำให้ลดโรคท้องอืดและลดอาการไม่พึงประสงค์นั่นเอง
การกินคีโตควรกินอหารที่มีไขมัน ของทอดทั้งหลายเองก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ใคร ๆ นึกถึง แต่ใช้ว่าอาหารที่มีไขมันจะดีทุกประเภทเพราะไขมันนั้นมีทั้ง ชนิดไขมันดี (High Density Lipoprotein) และ ชนิดไขมันเลว (Low Density Lipoprotein) อย่าลืมว่าการทานคีโตนั้นคือการเน้นทานไขมันดี เพื่อไม้ให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ในขณะที่ไขมันที่มาจากของทอดชนิดต่าง ๆ นั้น อาจเป็นไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นไขมันเลวที่ส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ดังนั้นจึงควรแยกให้ออกว่าที่กำลังกินอยู่เป็นไขมันดีหรือเลวกันแน่
อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยผลิตจากตับอ่อนที่พาน้ำตาลกลูโคสออกจากระแสเลือดเข้าสู่เซลล์ เพื่อกำจัดน้ำตาลในกระแสเลือด หากเรากินอาหารที่มีน้ำตาลสูงหรือมีส่วนในการกระตุ้นอินซูลินเป็นระยะเวลานาน ๆ ร่างจะผลิตมากขึ้ยแต่ร่างกายจะตอบสนองต่ออินซูลินได้น้อยลง ซึ่งภาวะนี้เรียกว่าเรียกว่า ภาวะดื้ออินซูลิน (Insulin Resistance) หากเกิดภาวะนี้ขึ้นมาก็จะนำไปสู่น้ำหนักตัวเกินและไขมันสะสมนั่นเอง ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงสารอาหารอื่นๆที่สามารถกระตุ้นการหลั่งอินซูลินอีกด้วย
การรับประทานผลไม้ก็ต้องเลี่ยงด้วยเช่นกัน เพราะในผลไม้นั้นมีน้ำตาลสูง โดยเฉพาะผลไม้รสหวานจัดต่าง ๆ อย่าง กล้วย มะม่วงสุก (ใครเป็นสายข้าวเหนียวมะม่วงก็ต้องบอกลากันแล้วล่ะ) สับประรด แตงโม ทุเรียน รวมไปถึงผลไม้อบ/ตากแห้ง และผลไม้แช่อิ่มทั้งหลายอีกด้วย
การควบคุมอาหารแป็นแค่ส่วนหนึ่งในการลดน้ำหนัก แต่การลดน้ำหนักให้เห็นผลและได้ผลจริงก็คือการออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยนั่นเอง เพราะการออกกำลังกายนั่นจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญของร่างกาย ดึงเอาไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ออกมาใช้แล้วเบิร์นออกนั้นเอง ดังนั้นการลดน้ำหนักนั้นต้องควบคู่กับไปทั้งการไดเอ็ท และการออกกำลังกาย เพื่อให้เกิดการลดน้ำหนักที่ยั่งยืน ไม่เกิดการตีกลับของน้ำหนักตัวที่ลดไปด้วย
อ้างอิง :
Atlantic Canada Healthcare คลังข้อมูลป้องกันโรค รู้ทันโรคใหม่ ๆ ทุกวัน พร้อมวิธีตรวจเช็คอาการเบื้องต้น มีประสิทธิภาพมากที่สุด ประหยัดที่สุด ทันเวลาในการตัดสินใจไปพบแพทย์เพื่อคำแนะนำและการรักษาที่ดีที่สุด